Tuesday, June 19, 2012

น้ำตาเพียงหนึ่งหยด แทนความรู้สึกนับร้อย

ไม่ได้อับบล็อคไปหลายวันเพราะยังนึกไม่ออกว่าจะแปลเพลงอะไรต่อไปดี เลยเปิด walkman หาเพลงดูุ ก็เลยได้เพลงนี้มา 一雫 - Hitoshizuku ครับ

เดิมที่เพลงนี้เป็นเพลงของวง Zone วงดนตรีสาวล้วน ทั้งมือกีต้า เบส กล่อง คีบอร์ด เป็นสาวหมด แถมแต่ละเพลงก็เพราะมากมาย โดยเพลงที่ฮิตติดหูมากที่สุด คงไม่พ้น Secret Base - Kimi ga kureta mono เป็นแน่ เสียดายที่สาวๆ ได้ยุบวงไปตั้งแต่ตอนปี 2005 แล้ว (เสียดายอย่างสุดซึ้ง) 

เวอร์ชั่นนี้อยู่ในอัลบั้ม Zone tribute ที่ออกมาเพื่อเป็นที่ระลึกแก่ Zone โดยจะมีสองแผ่น แผ่นแรกจะเป็นแผ่นที่นักร้องต่างๆ มาัขับร้องเพลงของ Zone ส่วนแผ่นที่สอง จะเป็น Original ของสาวๆ วง Zone เองเลย เพลงนี้ก็เป็นหนึ่งในเพลงที่ได้ Yanaginagi มาช่วยขับร้องให้ฟัง ซึ่งจะเป็นเวอร์ชั่นอคูสติก ฟังสบายๆ เพราะๆ คนละแนวกับ original ครับ (เพราะทั้งสองเวอร์เลย ><)

ไม่ให้เสียเวลา เชิญรับฟังกันได้เลยครับ




Song : 一雫 / Hitoshizuku / 1 Drop
Artist : やなぎなぎ / Yanaginagi (Original by ZONE)


部屋の灯りをすべて消して
Heya no akari o subete keshite
ยามเย็นของฤดูร้อนที่มองเห็นได้จากหน้าต่าง
窓から見える夏の夜
Mado kara mieru natsu no yoru
เมื่อได้ดับไฟทั้งหมดที่อยู่ในห้องแล้ว
星が囁きやさしい風が
Hoshi ga sasayaki yasahii kaze ga
ราวกับเชื้อเชิญหัวใจที่ห่อไว้ด้วย
つつみ込んで心を誘う
tsutsu mikonde Kokoro o sasou
ลมกระซิบอันอ่อนโยนจากดวงดาว


とまどい続けて
Tomodoi tsuzukete
ยังคงก้าวไปต่ออย่างสับสน
素直になれずにいたけど
Sunao ni narezu ni ita kedo
แม้ว่าความจริงแล้ว จะไม่ชินกับมันก็ตามที


やさしさに初めて出逢った頃は
Yasashisa ni hajimete deatta goro wa
เมื่อครั้งแรกที่เราได้พบกันอย่างอ่อนโยนนั้น
この胸の奥がハガユク感じ
Kono mune no oku ga hagayuku kanji
รู้สึกว้าวุ่นอยู่ในส่วนลึกของหัวใจนี้
何故か一雫の涙が頬を
Nazeka hitoshizuku no namida ga hoho o
ทำไมน้ำตาหนึ่งหยดนั้น
そっと伝わったよ
Sotto tsutawatta yo
ถึงค่อยๆ ไหลลงผ่านแก้มกันนะ
それはあなたが心の中にふれたの
Sore wa anata ga kokoro no naka ni.. fureta no
คงเป็นเพราะว่าเธอนั้นได้สัมผัสถึงข้างในหัวใจนี้แล้วละ


ふっと気づくと遠く見えてた
Futto kizuku to tooku mieteta
เมื่อรู้สึกตัว ท้องฟ้าที่มองเห็นจากที่แสนไกลนั้น
空は明るくあたたかくて
Sora wa akaruku atatakakute
ทั้งสว่างและอบอุ่น
両手伸ばして抱きしめてた
Ryoute nobashite dakishimeteta
เมื่อใช้สองมือกางออกและโอบอุ้มท้องฟ้านั้นไว้
迷いも不安も消えていた
Mayoi mo fuan mo kiete ita
ทั้งความสบสน ทั้งความวิตกกังวล ก็จางหายไป


あなたの存在が
Anata no sonzai ga
ตัวตนของเธอนั้น
すべてを埋めつくしていた
Subete o umetsuku shite ita
ช่วยปิดคลุมทุกสิ่งทุกอย่างเอาไว้ให้


ずっと側にいたいと思う気持ちは
Zutto soba ni itai to omou kimochi wa
ความรู้สึกที่อยากจะอยู่เคียงข้างเธอตลอดไปนั้น
次々と溢れ押さえ切れずに
Tsuki tsuki to afure osae kirezu ni
เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จนเกินที่จะยับยั้งไว้ได้
自然と素直に今変わる自分が
Shizen to sunao ni ima kawaru jibun ga
ความปรารถนา ที่ต้องการจะถ่ายทอดความรู้สึกนี้
伝えたい想い…
Tsutaetai omoi...
ของตนเองที่เป็นไปตามธรรมชาติอย่างซื่อตรง
それはあなたが心の中にいるから
Sore wa anata ga kokoro no naka ni... iru kara
คงเป็นเพราะว่าเธอนั้นอยู่ข้างในหัวใจนี้ยังไงละ


やさしさに初めて出逢った頃は
Yasashisa ni hajimete deatta goro wa
เมื่อครั้งแรกที่เราได้พบกันอย่างอ่อนโยนนั้น
この胸の奥がハガユク感じ
Kono mune no oku ga hagayuku kanji
รู้สึกว้าวุ่นอยู่ในส่วนลึกของหัวใจนี้
何故か一雫の涙が頬を
Nazeka hitoshizuku no namida ga hoho o
ทำไมน้ำตาหนึ่งหยดนั้น
そっと伝わったよ
Sotto tsutawatta yo
ถึงค่อยๆ ไหลลงผ่านแก้มกันนะ
それはあなたが心の中にふれたの
Sore wa anata ga kokoro no naka ni.. fureta no
คงเป็นเพราะว่าเธอนั้นได้สัมผัสถึงข้างในหัวใจนี้แล้วละ


ずっと側にいたいと思う気持ちは
Zutto soba ni itai to omou kimochi wa
ความรู้สึกที่อยากจะอยู่เคียงข้างเธอตลอดไปนั้น
次々と溢れ押さえ切れずに
Tsuki tsuki to afure osae kirezu ni
เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จนเกินที่จะยับยั้งไว้ได้
自然と素直に今変わる自分が
Shizen to sunao ni ima kawaru jibun ga
ความปรารถนา ที่ต้องการจะถ่ายทอดความรู้สึกนี้
伝えたい想い…
Tsutaetai omoi...
ของตนเองที่เป็นไปตามธรรมชาติอย่างซื่อตรง
それはあなたが心の中にいるから
Sore wa anata ga kokoro no naka ni... iru kara
คงเป็นเพราะว่าเธอนั้นอยู่ข้างในหัวใจนี้ยังไงละ


-------------------------------------------------------------------------------------------

แม้จะนานหลายปีแล้ว แต่ฟังกี่รอบก็ยังไพเราะเหมือนเดิม ถ้าเป็นไปได้อยากให้วงนี้กลับมารวมตัวกันอีกซะรอบจริงๆ

ไว้คราวหน้าจะหาเพลงเพราะมาให้ได้ฟังกันอีกนะครับ  




Friday, June 8, 2012

1/6 กับความหมายที่ซ่อนอยู่

ชื่อว่าหลายๆ ท่านที่บังเอิญผ่านมาอ่าน Blog นี่ คงจะเคยได้ยินชื่อของ Vocaloid ที่ชื่อ Hatsune Miku กันไม่มากก็น้อย ซึ่ง Vocaloid ก็คือ โปรแกรมประดิษฐ์เีสียงสังเคราะห์นั้นเอง ซึ่งมีออกมาหลากหลายรุ่น แต่ละรุ่นก็จะมีโมเดลเป็นของตัวเอง และโมเดลที่ได้รับความนิยมมากที่สุดก็คงไม่พ้น Hatsune Miku นั้นเอง


หลายคนคงสงสัย แล้วโปรแกรมที่ว่ามันมีประโยชน์ยังไง สำหรับเราๆ ท่านๆ อาจจะชอบฟังเพลงเป็นชีวิตจิตใจ จนวันหนึ่ง เกิดอยากมีเพลงเป็นของตัวเองขึ้นมาละ แต่งเนื้อร้องเอง ดนตรีเอง แล้วหาคนร้องไม่ได้ คงเศร้าน่าดูใช่ไหมครับ Vocaloid คือคำตอบนั้นครับ เราแค่เอาเนื้อร้องกับทำนองใส่เข้าไป Miku ก็จะร้องเพลงของท่านให้แล้วครับ


ด้วยสาเหตุนี้เอง ทำให้นักแต่งเพลงหลายๆ คน ที่มีความฝันว่าอยากให้คนอื่นได้ฟังเพลงของตัวเองนั้น ได้แต่งเพลงขึ้นมาให้ Miku ได้ร้อง ตั้งแต่โนเนม จนไปถึงบิ๊กเนมเลยทีเดียว นั้นทำให้เราได้ฟังเพลงเพราะๆ ที่ไม่เคยฟังที่ไหนมาก่อน พร้อมกับทำให้ Miku กลายเป็นนักร้องขวัญใจมวลชนเพียงข้ามคืนเลยทีเดียว คิดดูเอาคับ โปรแกรมเสียงร้อง แต่มีคอนเสิร์ทเป็นของตัวเองได้นี้ สุดยอดแค่ไหน หุๆๆ


วันนี้ผมเลยหยิบเพลงที่ผมชอบเป็นพิเศษมาให้ลองฟังกัน สะดุดตั้งแต่ชื่อเพลงแล้วครับ เพลงอะไรหว่า 1/6 ชื่่่อนี้มันมาไงละเนี่ย แต่พอได้อ่านเนื้อเพลงแล้ว จะรู้เลยครับว่าตัวเลขนี้คืออะไร

ไม่ให้เสียเวลา ไปลองฟังกันเลย





Song : 1/6 - genesis mix -  
Artist ぼーかりおどP(noa) feat. 初音ミク  / Bo-kariodoP(noa) feat. Hatsune Miku 



君を探してあの街へ
kimi wo sagashite ano machi e 
ฉันเดินหลงทางอยู่ในเมืองยามราตรี
さ迷い歩いた夜の道 
sa mayoi aruita yoru no michi
มองหาเธอไปตามถนนเส้นนั้น
受話器越しに聞こえた声が
juwaki goshi ni kikoeta koe ga 
เมื่อฉันได้ยินเสียงของเธอที่ผ่านหูโทรศัพท์นั้น 
なぜか とても 気になったの
naze ka totemo ki ni natta no
ทำไมถึงได้รู้สึกกังวัลใจเหลือเกินนะ 
 

見つけた君は赤い瞳
mitsuketa kimi wa akai hitomi 
ตัวเธอที่ฉันได้พบนั้น ดวงตาแดงก่ำ
何事もないフリはナシにして
nani goto mo nai FURI wa NASHI ni shite
และแกล้งทำเหมือนกับว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น
黒い沼に沈む君を放っておくわけにはいかない
kuroi numa ni shizumu kimi wo hotte oku wake ni wa ikanai
ฉันไม่อาจปล่อยให้เธอที่จมลงสู่ก้นบึงที่มืดมิดนั้น ไว้คนเดียวได้หรอก


いつか重力のクサリを解き放ち
itsuka juuryoku no KUSARI wo toki hanachi
ซักวันฉันจะปลดปล่อยเธอจากพันธนาการของแรงดึงดูดของโลกนี้
宇宙へ飛ぶサテライト
sora e tobu SATERAITO
ดั่งดาวเทียมที่พุ่งออกไปยังอวกาศ
そこに行けば体の重さも1/6
soko ni ikeba  karada no omosa mo roku bun no ichi
หากออกไป ณ ที่แห่งนั้นแล้วละก็ น้ำหนักของร่างกายก็จะเหลือเพียง 1/6
君が抱えてる悲しみが
kimi ga kakaeteru kanashimi ga
อยากให้ความเศร้าที่เธอแบกรับไว้นั้น
少しでも軽くなればそれでいい
sukoshi de mo karuku nareba sore de ii
เบาบางลงเพียงสักนิดก็ยังดี
いつかそこに君を連れていくよ
itsuka soko ni kimi wo tsurete iku yo
สักวันฉันจะพาเธอไป ณ ที่แห่งนั้นเองนะ
重力の外へ
juuryoku no soto e
ออกไปจากแรงดึงดูดของโลกนี้


宇宙旅行は無理ですが
uchuuryokou wa muri desu ga
แม้ว่าการท่องเที่ยวในอวกาศนั้นเป็นเรื่องที่เกินเอื้อมก็ตาม
物理的に高い所へ
butsuriteki ni takai tokoro e
แต่พอลองคิดหาผลลัพท์ของสถานที่
色々考えてみた結果
iroiro kangaete mita kekka
ที่อยู่สูงตามหลักฟิสิกส์แล้วละก็
目指すは港の赤い塔
mezasu wa minato no akai tou
เป้าหมายนั้นก็คือ หอคอยสีแดงที่อยู่ตรงท่าเรือนั้น


走ってきたフリして
hashitte kita FURI shite
ฉันวิ่งไปยังที่แห่งนั้น
胸の鼓動の速さを隠してみたの
mune no kodou no hayasa o kakushite mita no
โดยปิดซ้อนหัวใจที่เต้นระรัวเอาไว้ 
今日は君の手を救い上げる権利をもらうよ
kyou wa kimi no te wo sukui ageru kenri wo morau yo
ก็วันนี้เธออนุญาตให้ฉันได้จับมือของเธอด้วยนะซิ
  

軌道エレベータのように
kidou EREBE-TA no you ni
ดาวเทียมที่พุ่งขึ้นผ่านเหล่าก้อนเมฆ
雲を抜けて昇るよサテライト
kumo o nukete noboru yo SATERAITO 
ราวกับลิฟท์ที่ส่งนักบินอวกาศขึ้นไปยังกระสวย 
300
メートル昇れば少しは軽くなるかもね
sanhyaku ME-TORU noboreba sukoshi wa karuku naru ka mo ne
ถ้าขึ้นไปอีก 300 เมตรแล้วละก็ ตัวเราก็คงจะเบาขึ้นรึเปล่านะ
つまり子供ダマシだけれど
tsumari kodomo DAMASHI da keredo
ถึงจะดูเป็นการโกงแบบเด็กๆ ก็ตาม
意味が少しでも伝わればいい
imi ga sukoshi de mo tsutawareba ii
ถึงจะอธิบายอะไรไม่ได้เลยก็ช่างเถอะ
地上よりも上に連れていきたいの
chijou yori mo ue ni tsurete ikitai no 
ก็แค่อยากพาเธอไปจากพื้นดินนี้เท่านั้นเอง
重力の外へ
juuryoku no soto e 
ออกไปจากแรงดึงดูดของโลกนี้
 

見え隠れしてる気持ちは
miegakure shiteru kimochi wa
แม้ความรู้สึกที่เก็บซ่อนเอาไว้นี้ 
多分バレているんだろうけれど
tabun BARE te irun darou keredo 
จะถูกเปิดเผยแล้วก็ตามที 
今はそれ以上 君を救いたいエゴイズム
ima wa sore ijou kimi wo sukuitai EGOIZUMU 
แต่สิ่งที่สำคัญกว่านั้น ก็คือความเห็นแก่ตัวของฉันที่อยากจะช่วยเธอ

  
太陽の力を借りて
taiyou no chikara o karite 
ขอให้เธอพึ่งพาฉัน 
白く輝いているお月様
shiroku kagayaite iru otsukisama
ให้เหมือนกับพระจันทร์ที่ยืมพลัง
同じように頼ってくれませんか?
onaji you ni tayotte kure masen ka?
จากดวงอาทิตย์เพื่อเปล่งประกายแสงสีขาว


いつか重力のクサリを断ち切り
itsuka juuryoku no KUSARI wo tachikiri 
ซักวันฉันจะเป็นดั่งดาวเทียม 
君を連れてサテライト
kimi o tsurete SATERAITO 
ที่จะพาเธอตัดผ่าพันธนาการของแรงดึงดูดของโลกนี้ 
辛いコトや悲しいコトも全部  1/6
tsurai KOTO ya kanashii KOTO mo zenbu roku bun no ichi
ความเจ็บปวด ความเศร้า ให้ทั้งหมดนั้นเหลือเพียง 1/6
宇宙船はまだ先だけれど
uchuusen wa mada saki da keredo
กว่าจะถึงยานอวกาศคงยังอีกสักพักหนึ่ง
そこに辿りつけるまでの間
soko ni tadori tsukeru made no aida
ระหว่างที่เราทั้งสองพยายามไปยังที่นั้น  
僕の左手を握っててくれますか?
boku no hidari te wo nigittete kure masu ka?
ขอให้เธอจับมือซ้ายของฉันเอาไว้ได้ไหม
いつか重力の外へ連れていくよ
itsuka juuryoku no soto e tsurete yuku yo

แล้วจะสักวัน ฉันจะพาเธอออกไปจากแรงดึงดูดของโลกนี้เอง


Out of the Gravity

-----------------------------------------------------------------------------------------

เพลงนี้จริงๆ แล้วมีอยู่หลายเวอร์ชั่นครับ แต่ผมชอบอันนี้เป็นการส่วนตัว ><
เนื้อร้องจะต่างกันนิดหน่อยตอนเริ่มครับ ที่เหลือเหมือนกันหมด
ยังไงก็ลองหาเวอร์ชั่นอื่นมาลองฟังเปรียบเทียบกันดูนะครับ ได้อรรถรสไปอีกแล้ว


 ไว้จะหาเพลงมาแนะนำอีกนะครับ ^^

  

Wednesday, June 6, 2012

มือใหม่หัดเล่นบล็อคกับเพลงที่ชอบ

เคยคิดไว้นานแล้วว่า อยากจะลองเขียนบล็อคเหมือนกับชาวบ้านเขาบ้าน แต่เนื่องจากเวลาที่ไม่ค่อยเอื่อยประกอบกับสมองที่โล่งโปร่ง ไม่รู้ว่าจะเขียนอะไร ทำให้กว่าจะได้เริ่มลงมือเขียน คนอื่นเขาก็จะเิลิกเขียนกันหมดแล้ว = 3=


พอดีว่าตอนนี้กำลังหาวิธีทบทวนภาษาญี่ปุ่นที่มีอยู่เพียงน้อยนิดในสมอง (ที่เหลือก็โล่งๆ อย่างที่บอกไป) และแล้วก็พบว่า ทบทวนด้วยสิ่งที่เราสนใจซะน่าจะรุ่งกว่านั่งอ่านหนังสือแบบเอาเป็นเอาตาย แล้วมันก็หายไปในเวลาไม่นาน ว่าแล้วก็นั่งนึกว่าตัวเองสนใจอะไรบ้าง แน่นอนคนเราไม่ได้มีความสนใจแค่อย่างเดียวนี่ มีเป็นร้อยครับ หลังจากคิดแล้วคิดอีกอยู่นาน จึงเลือกสิ่งที่เราสนใจที่สุดและคิดว่าทำได้ง่่ายที่สุดขึ้นมาได้ นั้นก็คือ "เพลง" นั้นเอง


เพราะเป็นคนชอบฟังเพลง J-pop เป็นทุนเดิมและด้วยความใคร่รู้ว่า เพลงที่เราชอบฟังนั้นมันร้องว่ายังไงบ้าง ลองแปลเพลงที่ชอบดูมันซะเลย ได้ทั้งทบทวนภาษาญี่ปุ่น ได้ทั้งรู้เนื้อเพลงที่ชอบ คุ้มจริงๆ จะรอช้าอยู่ไย ไปลองฟังเพลงนี้กันดู ถ้าแปลผิดแปลเพี้ยนยังไง ก็ต้องขอโทษด้วย เพราะคงต้องใช้เวลาอีกพอสมควรกว่าจะรื้อฟื้นได้นะ ><




Song : うたかた花火 - Utakata Hanabi - ดอกไม้ไฟที่เลือนหาย
Artist : supercell



あふれる人でにぎわう8月末のお祭り
Afureru hito de nigiwau hachigatsu matsu no omatsuri
งานเทศกาลปลายเดือนแปดที่เต็มไปด้วยผู้คน
浴衣を着て下駄も履いて
Yukata wo kite geta mo haite
ฉันสวมชุดยูกะตะรวมทั้งสวมรองเท้าไม้
からん ころん 音を立てる
Karan koron oto wo tateru
ทำให้มีเสียงกระทบกันดังก๊อกแก๊ก
ふいにあがった花火を二人で見上げた時
Fui ni agatta hanabi wo futari de miageta toki
ตอนที่เราทั้งสองมองดูดอกไม้ไฟที่ปรากฏขึ้นมาโดยฉับพลันนั้น
夢中で見てる君の顔
Muchuu de miteru kimi no kao wo
ฉันแอบมองใบหน้าที่กำลังเหม่อมอง
をそっと盗み見たの
Sotto nusumi mita no
ของเธออยู่เงียบๆ
 
君のこと嫌いになれたらいいのに
Kimi no koto kirai ni naretara ii no ni
ถ้าฉันเกลียดเธอได้ก็คงจะดี
今日みたいな日にはきっと
Kyou mitai na hi ni wa kitto
ไม่เช่นนั้นแล้ว ฉันคงจะนึกถึง
また思い出してしまうよ
Mata omoidashite shimau yo
เรื่องราวแบบในวันนี้อีกเป็นแน่
 
こんな気持ち知らなきゃよかった
Konna kimochi shiranakya yokatta
ดีเหลือเกินที่ได้รับรู้ถึงความรู้สึกนี้
もう二度と会えることもないのに
Mou nidoto aeru koto mo nai no ni
แม้ว่าพวกเราจะไม่ได้เจอกันอีกแล้วก็ตาม
会いたい 会いたいんだ
Aitai… Aitainda
อยากเจอ...อยากเจอเหลือเกิน
今でも想う 君がいたあの夏の日を
Ima demo omou kimi ga ita ano natsu no hi wo
แม้แต่ในตอนนี้ ก็ยังนึกถึงวันในฤดูร้อนวันนั้น ที่ฉันมีเธออยู่ด้วย
 
少し疲れて二人 道端に腰掛けたら
Sukoshi tsukarete futari michibata ni koshikake tara
เมื่อเราสองคนที่เหน็ดเหนื่อยเพียงเล็กน้อย นั่งพักลงที่ริมทางนั้น
遠く聞こえるお囃子の音(ね)
Tooku kikoeru ohayashi no ne
ก็ได้ยินเสียงท่วงทำนองดังมาจากที่ไกลๆ
ひゅるりら 鳴り響く
hyururira nari hibiku
เสียงสะท้อนของสายลม
夜空に咲いた大きな大きな錦冠
Yozora ni saita ookina ookina nishiki kamuro
ดอกไม้ไฟเบ่งบานไปทั่วท้องฟ้ายามราตรี
もう少しで夏が終わる
Mou sukoshi de natsu ga owaru
อีกไม่นานฤดูร้อนก็จะสิ้นสุดลงแล้ว
ふっと切なくなる
Futto setsunaku naru…
รู้สึกปวดใจขึ้นมาในทันที
 
逆さまのハートが打ちあがってた
Sakasama no HAATO ga uchi agatteta
หัวใจที่เต้นระรัวไม่เป็นจังหวะ
あははって笑いあって
Ahaha tte warai ate
ฉันหัวเราะ ฮะ ฮะ
好きだよって   キスをした
Suki da yo tte KISU wo shita
และเอ่ยคำว่า ฉันชอบเธอนะแล้วจูบกับเธอ
 
もう忘れよう 君のこと全部
Mou wasureyou kimi no koto zenbu
พยายามที่จะลืม เรื่องราวทั้งหมดของเธอ
こんなにも悲しくて
Konna ni mo kanashikute
แม้ว่ามันต้องเจ็บปวดถึงเพียงนี้
どうして出会ってしまったんだろう
Doushite deatte shimattandarou
ทำไมเราถึงต้องพบกันด้วยนะ
目を閉じれば
Me wo tojireba
แค่เพียงหลับตาลง
今も君がそこにいるようで
Ima mo kimi ga soko ni iru you de 

ก็เหมือนว่า แม้แต่ตอนนี้เธอก็ยังคงอยู่ตรงนั้น
 
甘い吐息 微熱を
Amai toiki binetsu wo
ตัวฉันที่ลมหายรุ่มร้อนและหอมหวานนั้น
帯びる私は君に恋した
Obiru watashi wa kimi ni koishita
ได้ตกหลุมรักเธอเข้าแล้ว
その声に その瞳に
Sono koe ni  Sono hitomi ni
หากได้รับรู้ถึงเสียงนั้น ดวงตาคู่นั้นแล้วละก็
気づけば時は過ぎ去ってくのに
kizukeba toki wa Sugi satteku no ni
แม้เวลาจะเลยผ่านไปแล้วก็ตาม
まだ君の面影を探して
Mada kimi no omokage wo sagashite
ฉันก็ยังคงตามหาเงาร่างของเธอต่อไป
 
一人きりで見上げる花火に
Hitorikiri de miageru hanabi ni
ฉันที่เฝ้ามองดูดอกไม้ไฟเพียงลำพังนั้น
心がちくりとして
Kokoro ga chikuri to shita
เหมือนกับโดนเข็มทิ่มแทงหัวใจ
もうすぐ次の季節が やって来るよ
Mou sugu sugi no kisetsu ga Yatte kuru yo
อีกไม่นาน ฤดูกาลใหม่ก็จะหมุนเวียนมา
君と見てたうたかた花火
Kimi to miteta utakata hanabi
ดอกไม้ไฟที่ค่อยๆ เลือนหายไป ที่ฉันได้ดูกับเธอ
今でも想う あの夏の日を
Ima demo omou Ano natsu no hi wo
แม้แต่ในตอนนี้ ก็ยังคงนึกถึง วันในฤดูร้อนวันนั้น


------------------------------------------------------------------------ 

ถ้าใครชอบดู Anime ก็คงคุ้นกันดีกับเพลงนี้ เพราะถูกใช้เป็นเพลง Ending ของ Naruto นั้นเอง แต่พอดีว่าผมไม่ได้ดู แต่เพราะเป็นแฟนของ Supercell อยู่แล้วครับ ก็เพิ่งจะมารู้ตอนหลังนี่เองว่าเพลง Supercell ถูกใช้เป็นเพลงประกอบใน Anime หลายเรื่องเลยทีเดียว คงต้องไปลองหามาดูบ้างซะแล้ว ^^ 

ผมก็จะพยายามหาเพลงพราะๆ พร้อมคำแปล(ถูๆไถๆ) มาฝากทุกท่านที่สนใจกันอีกนะครับ ^^